วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ทริป “เก้าวันสี่พันรูป”วันที่๘

วันที่๘(31/07/2553)


                วันนนี้ตื่นมาแบบง่วงๆงงๆอีกแล้วเพราะเมื่อวานไปเล่นเกมจนดึกกลับมาก็ตี ๒ มีข่าวแว่วๆมาว่าวันนี้ต้องซื้อมื้อเที่ยงไปกินอีกแล้ว เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ลงไปกินมื้อเช้าและซื้อมื้อเที่ยง ขึ้นรถก็หลับ จุดหมายปลายทางแรกของเราวันนี้ก็คือที่บ้าน อ.ตี๋

บ้าน .ตี๋
                เป็นบ้านไม้แบบเก่าที่ไม่เก่าบรรยากาศภายในบ้านัดได้หน้าอยู่และเย็นสบายมากทั้งๆที่ข้างนอกร้อนมากๆ หลังจะเป็นสวนที่มีการจัด Landscape ให้สนามหญ้าอยู่ตรงกลาง และทางเดินอยู่รอบๆเป็นการสร้างพื้นที่ปิดล้อมโดยใช้ circulation หลังจากนั่งเล่นบ้าน .ตี๋ ซักพักก็ออกไปถ่ายรูปในชุมชน ซึ่ง ในสมัยก่อนชุมชนแถบนี้เป็นชุมชนของคนจีนจึงร้านค้ามากมาย ซึ่งตลอดสองข้างทางของถนนส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถวไม้เรียงรายกันเต็มทั้ง ๒ ฝั่ง แสดงถึงวิถีชีวิตในแบบชุมชนโบราณให้บรรยากาศของชุมชนที่เก่าแก่เมื่อเดินไปจนสุดเลี้ยวไปทางขวาข้ามสะพานไปก็จะพบกับชุมชนอีกชุมชนหนึ่งที่อยู่ริมน้ำชื่อว่า ชมชุนเกาะกง ลักษณะของบ้านจแตกต่างที่เดินผ่านมาในตอนแรก บเนจะยกใต้ถุนสูงมากๆเพื่อหนีน้ำขึ้นน้ำลง มีสะพานไม้เชื่อมต่ทั้ง ๒ ฝั่ง บ้านส่นใหญ่จะมี terace นั่งเล่นอยู่บริเวณด้านหน้าซึ่งเปิดโล่งและใช้รับแขกได้ด้วยให้บรรยากาศแบบชาวบ้านๆซึ่งดูอบอุ่นและนิ่มนวลไม่เหมือนกับคอนกรีตที่ดูแข็งๆเป็นบรรยากาศที่หาได้ยากจริงๆ เมื่อเดินถ่ายกันจนเหื่อยแล้วก็เดินกลับมาที่บ้าน อ.ตี๋เพื่อมากินมื้อเที่ยงซึ่ง กินฟรีเพราะว่าทางบ้าน .ตี๋ เลี้ยงจึงทำให้กับข้าวมื้อเที่ยงที่ซื้อมาไม่มีความหมายและจะซื้อมาทำไมก็ไม่ทราบ ข่าวลือนี่เชื่อไม่ค่อยได้จริงๆ


สนามบินสุโขทัย
                พอมาถึงก็ตกใจมากไม่น่าเชื่อว่าสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นจะเอามาทำสนามบินได้ ซึ่งเป้นสนามบินไม่กี่แห่งในโลกที่ไม่มีการปรับอากาศในตัวอาคารผู้โดยสาร โดยเจ้าหน้าที่ที่สนามบินบอกว่าจะมีน้ำหยดลงมาจากหลังคาเพื่อลดความร้อนด้วย ตัวอาคารสนามบินใช้ระเบียบมาจากสถาปัตยกรรมสุโขทัยไม่ว่าจะเป็นช่องเปิดแนวตั้ง texture การเรียงอิฐ แสดงถึงเอกลักษณ์ความเห็นสุโขทัย และมีการจัด Landscape เป็นลายผ้าถ้ามองลงมาจากเครื องบินถึงจะเห็น เป็นการจัด Landscape ที่ไม่ค่อยสัมพันธ์กับผู้ใช้อาคารเท่าไหร่ รอบๆบริเวณสนามบินก็จะมีสระน้ำอยู่เป็นระยะๆเพื่อที่พัดความชื้นเข้าสู่ตัวอาคาร

โรงแรมสนามบินสุโขทัย
                เป็นโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมแบบสมัยใหม่ที่นำสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นเข้ามาสอดแทรกได้อย่างลงตัว อย่างการเจาะช่องเปิดแนวตั้ง Texture การเรียงอิฐ และ รูปปั้นช้างที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัดช้างล้อม เมื่อเข้าไปจะเป็นโถงต้อนรับนักท่องเที่ยวและเมื่อออกไปก็จะพบกับสระน้ำขนาดใหญ่การวางผังก็คือจะให้สระน้ำอยู่ตรงกลางและฟังชั่นอื่นๆก็จะอยู่รอบๆสระน้ำ ซึ่งสระน้ำนี้จะเชื่อมแมสนำสายตาไปสู่สระว่ายน้ำด้านข้างได้ด้วย การวางผังจัด circulation โดยไม่ให้เข้าทางด้านหน้าโดยตรงแต่จะให้เดินอ้อมเข้าทางด้านข้างทำให้มีลีลาในการเข้าถึงเหมือนที่วัดนางพญา ตัวอาคารทั้งหมดและการตกแต่งก็จะเป็นสไตล์พื้นถิ่นบวกกัยวัสดุสมัยใหม่ ให้ความรู้สึกแบบ Modern พื้นถิ่น หลังจากนั้นทางคณะทัวร์ก็ออกจากโรงแรม ไปถ่ายรูปบ้านตามหมู่บ้านและกลับที่พักซึ่งพรุ่งนี้เราก็จะ check out กลับกรุงเทพแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น